ในวันครบรอบ 25 ปีของการเปิดตัว NVIDIA GeForce 256 เราเฉลิมฉลองความก้าวหน้าทางเกมที่เปลี่ยนโฉมความบันเทิงและวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI
11 ตุลาคม 2024 โดย จอห์น เฟนโน
ในปี 1999 แฟนๆ ต่างเข้าแถวที่ร้าน Blockbuster เพื่อเช่าเทป VHS ขนาดใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง The Matrix ผู้เตรียมตัวรับมือ Y2K ต่างกักตุนเงินสดและสแปมไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าคอมพิวเตอร์ทั่วโลกจะล่ม วัยรุ่นต่างดาวน์โหลดเพลงของ Britney Spears และ Eminem บน Napster อย่างสนุกสนาน
ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมเทคโนโลยีอันคึกคักของยุคเปลี่ยนสหัสวรรษ มีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่ากำลังเกิดขึ้น
การเปิดตัว NVIDIA GeForce 256 เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นถูกมองข้ามโดยนักเล่นเกมพีซีตัวจริงและผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่กลับกลายเป็นการวางรากฐานให้กับ AI ที่สร้างสรรค์ในปัจจุบัน
GeForce 256 ไม่ใช่แค่การ์ดจอธรรมดา แต่ยังเปิดตัวในฐานะ GPU ตัวแรกของโลก สร้างเวทีให้กับความก้าวหน้าในอนาคตทั้งในด้านการเล่นเกมและการคำนวณ
การเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์และการให้แสง (T&L) ทำให้ซีพียูมีภาระน้อยลง นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ดังที่ Tom’s Hardware เน้นย้ำว่า “[GeForce 256] ช่วยลดภาระของซีพียู ทำให้กระบวนการ 3D หยุดชะงัก และช่วยให้ผู้พัฒนาเกมสามารถใช้รูปหลายเหลี่ยมได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายละเอียดเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยอัตโนมัติ”
ที่ที่การเล่นเกมเปลี่ยนไปตลอดกาล
สำหรับเกมเมอร์ การเริ่มต้นเล่นQuake III Arenaบน GeForce 256 ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ “ทันทีที่คุณเปิดเกมโปรดของคุณ คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณไม่เคยเห็นเกมนั้นมาก่อน” อย่างที่ผู้ที่ชื่นชอบจาก AnandTech กล่าว
GeForce 256 จับคู่ได้อย่างลงตัวกับเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างUnreal Tournamentซึ่งเป็นเกมแรกๆ ที่มีการสะท้อนภาพสมจริง ซึ่งจะสามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านชุดภายในปีแรก
ในช่วงศตวรรษหน้า ความร่วมมือระหว่างนักพัฒนาเกมและ NVIDIA จะยังคงขยายขอบเขตการทำงานต่อไป ขับเคลื่อนความก้าวหน้าต่างๆ เช่น พื้นผิวที่สมจริงยิ่งขึ้น แสงแบบไดนามิก และอัตราเฟรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มอบประสบการณ์ที่มากกว่าการดื่มด่ำให้กับนักเล่นเกมเท่านั้น
GPU ของ NVIDIA พัฒนาไปเป็นแพลตฟอร์มที่แปลงซิลิกอนและซอฟต์แวร์ใหม่ให้กลายเป็นนวัตกรรมทรงพลังที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเกม
ในทศวรรษต่อๆ มา GPU ของ NVIDIA ได้ขับเคลื่อนอัตราเฟรมและความคมชัดของภาพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้เล่นเกมได้ราบรื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ได้รับการยอมรับจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Twitch, YouTube Gaming และ Facebook เนื่องจากนักเล่นเกมสามารถสตรีมเนื้อหาด้วยความชัดเจนและความเร็วที่เหลือเชื่อ
การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนประสบการณ์การเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนผู้เล่นให้กลายเป็นผู้ให้ความบันเทิงอีกด้วย ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตของอีสปอร์ตทั่วโลก
กิจกรรมใหญ่ๆ เช่น The International (Dota 2), League of Legends World Championship และ Fortnite World Cup ดึงดูดผู้ชมได้หลายล้านคน ทำให้ eSports กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับการเล่นเกมเชิงแข่งขัน
จากการเล่นเกมสู่ AI: ขอบเขตใหม่ของ GPU
เมื่อโลกของเกมมีความซับซ้อนมากขึ้น ความต้องการในการคำนวณก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
พลังขนานที่แปลงโฉมกราฟิกเกมได้ดึงดูดความสนใจของนักวิจัยที่ตระหนักว่า GPU เหล่านี้ยังสามารถปลดล็อกศักยภาพการคำนวณมหาศาลใน AI ได้ ทำให้เกิดความก้าวหน้าที่ก้าวไกลเกินกว่าโลกของเกม
การเรียนรู้เชิงลึกซึ่งเป็นรูปแบบซอฟต์แวร์ที่ต้องอาศัยเซลล์ประสาทนับพันล้านเซลล์และการเชื่อมต่อนับล้านล้านครั้งนั้นต้องอาศัยพลังการประมวลผลมหาศาล
CPU แบบดั้งเดิมที่ออกแบบมาสำหรับงานแบบต่อเนื่องไม่สามารถจัดการปริมาณงานนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ GPU ที่มีสถาปัตยกรรมแบบขนานจำนวนมากนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานประเภทนี้
ภายในปี 2011 นักวิจัย AI ได้ค้นพบ GPU ของ NVIDIA และความสามารถในการจัดการกับความต้องการการประมวลผลอันมหาศาลของการเรียนรู้เชิงลึก
นักวิจัยจาก Google, Stanford และมหาวิทยาลัยนิวยอร์กเริ่มใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อเร่งการพัฒนา AI ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ในปี 2012 ความก้าวหน้าครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Alex Krizhevsky จากมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขันการจดจำภาพ ImageNet เครือข่ายประสาทเทียมของเขาที่ชื่อว่า AlexNet สามารถฝึกฝนด้วยภาพกว่าล้านภาพ และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ โดยเอาชนะซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการมองเห็นได้
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านเทคโนโลยี สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยดูเหมือนเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์เรียนรู้และปรับตัวจากข้อมูลจำนวนมหาศาล ตอนนี้กลายเป็นความจริงแล้ว โดยขับเคลื่อนด้วยพลังอันมหาศาลของ GPU
ภายในปี 2558 AI ได้เข้าถึงระดับการรับรู้ที่เหนือมนุษย์ โดยที่ Google, Microsoft และ Baidu แซงหน้าประสิทธิภาพของมนุษย์ในงานต่างๆ เช่น การจดจำภาพและการทำความเข้าใจคำพูด ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายประสาทลึกที่ทำงานบน GPU
ในปี 2016 ซีอีโอของ NVIDIA Jensen Huang บริจาคซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI เครื่องแรกของ NVIDIA DGX-1 ซึ่งเป็นระบบที่ประกอบด้วย GPU ล้ำสมัย 8 ตัว ให้กับ OpenAI ซึ่งจะใช้ GPU ในการฝึก ChatGPT ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022
ในปี 2018 NVIDIA ได้เปิดตัว GeForce RTX (ซีรีส์ 20) พร้อมด้วย RT Cores และ Tensor Cores ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการติดตามรังสีแบบเรียลไทม์และเวิร์กโหลด AI
นวัตกรรมนี้เร่งการนำกราฟิกแบบเรย์เทรซมาใช้ในเกม เพิ่มความสมจริงให้กับภาพในเกม และฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น NVIDIA DLSS ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้เชิงลึก
ในขณะเดียวกัน ChatGPT ซึ่งเปิดตัวในปี 2022 จะเข้าถึงผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนภายในไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GPU ของ NVIDIA ยังคงขับเคลื่อนพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI เชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ปัจจุบัน GPU ไม่เพียงแต่ได้รับการยกย่องในโลกเกมเท่านั้น แต่ยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมเทคโนโลยี โดยปรากฏในมีมของ Reddit สตรีมบน Twitch เสื้อยืดในงาน Comic-Con และแม้กระทั่งเป็นอมตะในงานสร้างพีซีที่กำหนดเองและงานแฟนอาร์ตแบบดิจิทัลอีกด้วย
การกำหนดอนาคต
การปฏิวัติที่เริ่มต้นด้วย GeForce 256 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ทั้งในด้านเกมและความบันเทิง ในด้านการประมวลผลส่วนบุคคล ที่ AI ที่ขับเคลื่อนด้วย GPU ของ NVIDIA กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว รวมถึงในอุตสาหกรรมล้านล้านดอลลาร์ที่กำลังสร้าง AI รุ่นถัดไปให้เป็นแกนหลักของธุรกิจของตน
GPU ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังออกแบบอนาคตให้กับ AI อีกด้วย
และตอนนี้ด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น NVIDIA DLSS ซึ่งใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและให้ภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น และ NVIDIA ACE ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำการโต้ตอบที่สมจริงยิ่งขึ้นมาสู่ตัวละครในเกม AI กำลังเข้ามาปรับเปลี่ยนโลกแห่งเกมอีกครั้ง
GeForce 256 วางรากฐานให้กับอนาคตที่การเล่นเกม การคำนวณ และ AI ไม่ได้แค่มีวิวัฒนาการเท่านั้น แต่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก
ในวันครบรอบ 25 ปีของการเปิดตัว NVIDIA GeForce 256 เราเฉลิมฉลองความก้าวหน้าทางเกมที่เปลี่ยนโฉมความบันเทิงและวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI
11 ตุลาคม 2024 โดย จอห์น เฟนโน
ในปี 1999 แฟนๆ ต่างเข้าแถวที่ร้าน Blockbuster เพื่อเช่าเทป VHS ขนาดใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง The Matrix ผู้เตรียมตัวรับมือ Y2K ต่างกักตุนเงินสดและสแปมไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าคอมพิวเตอร์ทั่วโลกจะล่ม วัยรุ่นต่างดาวน์โหลดเพลงของ Britney Spears และ Eminem บน Napster อย่างสนุกสนาน
ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมเทคโนโลยีอันคึกคักของยุคเปลี่ยนสหัสวรรษ มีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่ากำลังเกิดขึ้น
การเปิดตัว NVIDIA GeForce 256 เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นถูกมองข้ามโดยนักเล่นเกมพีซีตัวจริงและผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่กลับกลายเป็นการวางรากฐานให้กับ AI ที่สร้างสรรค์ในปัจจุบัน
GeForce 256 ไม่ใช่แค่การ์ดจอธรรมดา แต่ยังเปิดตัวในฐานะ GPU ตัวแรกของโลก สร้างเวทีให้กับความก้าวหน้าในอนาคตทั้งในด้านการเล่นเกมและการคำนวณ
การเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์และการให้แสง (T&L) ทำให้ซีพียูมีภาระน้อยลง นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ดังที่ Tom's Hardware เน้นย้ำว่า “[GeForce 256] ช่วยลดภาระของซีพียู ทำให้กระบวนการ 3D หยุดชะงัก และช่วยให้ผู้พัฒนาเกมสามารถใช้รูปหลายเหลี่ยมได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายละเอียดเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยอัตโนมัติ”
ที่ที่การเล่นเกมเปลี่ยนไปตลอดกาล
สำหรับเกมเมอร์ การเริ่มต้นเล่นQuake III Arenaบน GeForce 256 ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ “ทันทีที่คุณเปิดเกมโปรดของคุณ คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณไม่เคยเห็นเกมนั้นมาก่อน” อย่างที่ผู้ที่ชื่นชอบจาก AnandTech กล่าว
GeForce 256 จับคู่ได้อย่างลงตัวกับเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างUnreal Tournamentซึ่งเป็นเกมแรกๆ ที่มีการสะท้อนภาพสมจริง ซึ่งจะสามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านชุดภายในปีแรก
ในช่วงศตวรรษหน้า ความร่วมมือระหว่างนักพัฒนาเกมและ NVIDIA จะยังคงขยายขอบเขตการทำงานต่อไป ขับเคลื่อนความก้าวหน้าต่างๆ เช่น พื้นผิวที่สมจริงยิ่งขึ้น แสงแบบไดนามิก และอัตราเฟรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มอบประสบการณ์ที่มากกว่าการดื่มด่ำให้กับนักเล่นเกมเท่านั้น
GPU ของ NVIDIA พัฒนาไปเป็นแพลตฟอร์มที่แปลงซิลิกอนและซอฟต์แวร์ใหม่ให้กลายเป็นนวัตกรรมทรงพลังที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเกม
ในทศวรรษต่อๆ มา GPU ของ NVIDIA ได้ขับเคลื่อนอัตราเฟรมและความคมชัดของภาพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้เล่นเกมได้ราบรื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ได้รับการยอมรับจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Twitch, YouTube Gaming และ Facebook เนื่องจากนักเล่นเกมสามารถสตรีมเนื้อหาด้วยความชัดเจนและความเร็วที่เหลือเชื่อ
การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนประสบการณ์การเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนผู้เล่นให้กลายเป็นผู้ให้ความบันเทิงอีกด้วย ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตของอีสปอร์ตทั่วโลก
กิจกรรมใหญ่ๆ เช่น The International (Dota 2), League of Legends World Championship และ Fortnite World Cup ดึงดูดผู้ชมได้หลายล้านคน ทำให้ eSports กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับการเล่นเกมเชิงแข่งขัน
จากการเล่นเกมสู่ AI: ขอบเขตใหม่ของ GPU
เมื่อโลกของเกมมีความซับซ้อนมากขึ้น ความต้องการในการคำนวณก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
พลังขนานที่แปลงโฉมกราฟิกเกมได้ดึงดูดความสนใจของนักวิจัยที่ตระหนักว่า GPU เหล่านี้ยังสามารถปลดล็อกศักยภาพการคำนวณมหาศาลใน AI ได้ ทำให้เกิดความก้าวหน้าที่ก้าวไกลเกินกว่าโลกของเกม
การเรียนรู้เชิงลึกซึ่งเป็นรูปแบบซอฟต์แวร์ที่ต้องอาศัยเซลล์ประสาทนับพันล้านเซลล์และการเชื่อมต่อนับล้านล้านครั้งนั้นต้องอาศัยพลังการประมวลผลมหาศาล
CPU แบบดั้งเดิมที่ออกแบบมาสำหรับงานแบบต่อเนื่องไม่สามารถจัดการปริมาณงานนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ GPU ที่มีสถาปัตยกรรมแบบขนานจำนวนมากนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานประเภทนี้
ภายในปี 2011 นักวิจัย AI ได้ค้นพบ GPU ของ NVIDIA และความสามารถในการจัดการกับความต้องการการประมวลผลอันมหาศาลของการเรียนรู้เชิงลึก
นักวิจัยจาก Google, Stanford และมหาวิทยาลัยนิวยอร์กเริ่มใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อเร่งการพัฒนา AI ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ในปี 2012 ความก้าวหน้าครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Alex Krizhevsky จากมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขันการจดจำภาพ ImageNet เครือข่ายประสาทเทียมของเขาที่ชื่อว่า AlexNet สามารถฝึกฝนด้วยภาพกว่าล้านภาพ และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ โดยเอาชนะซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการมองเห็นได้
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านเทคโนโลยี สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยดูเหมือนเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์เรียนรู้และปรับตัวจากข้อมูลจำนวนมหาศาล ตอนนี้กลายเป็นความจริงแล้ว โดยขับเคลื่อนด้วยพลังอันมหาศาลของ GPU
ภายในปี 2558 AI ได้เข้าถึงระดับการรับรู้ที่เหนือมนุษย์ โดยที่ Google, Microsoft และ Baidu แซงหน้าประสิทธิภาพของมนุษย์ในงานต่างๆ เช่น การจดจำภาพและการทำความเข้าใจคำพูด ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายประสาทลึกที่ทำงานบน GPU
ในปี 2016 ซีอีโอของ NVIDIA Jensen Huang บริจาคซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI เครื่องแรกของ NVIDIA DGX-1 ซึ่งเป็นระบบที่ประกอบด้วย GPU ล้ำสมัย 8 ตัว ให้กับ OpenAI ซึ่งจะใช้ GPU ในการฝึก ChatGPT ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022
ในปี 2018 NVIDIA ได้เปิดตัว GeForce RTX (ซีรีส์ 20) พร้อมด้วย RT Cores และ Tensor Cores ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการติดตามรังสีแบบเรียลไทม์และเวิร์กโหลด AI
นวัตกรรมนี้เร่งการนำกราฟิกแบบเรย์เทรซมาใช้ในเกม เพิ่มความสมจริงให้กับภาพในเกม และฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น NVIDIA DLSS ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้เชิงลึก
ในขณะเดียวกัน ChatGPT ซึ่งเปิดตัวในปี 2022 จะเข้าถึงผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนภายในไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GPU ของ NVIDIA ยังคงขับเคลื่อนพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI เชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ปัจจุบัน GPU ไม่เพียงแต่ได้รับการยกย่องในโลกเกมเท่านั้น แต่ยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมเทคโนโลยี โดยปรากฏในมีมของ Reddit สตรีมบน Twitch เสื้อยืดในงาน Comic-Con และแม้กระทั่งเป็นอมตะในงานสร้างพีซีที่กำหนดเองและงานแฟนอาร์ตแบบดิจิทัลอีกด้วย
การกำหนดอนาคต
การปฏิวัติที่เริ่มต้นด้วย GeForce 256 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ทั้งในด้านเกมและความบันเทิง ในด้านการประมวลผลส่วนบุคคล ที่ AI ที่ขับเคลื่อนด้วย GPU ของ NVIDIA กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว รวมถึงในอุตสาหกรรมล้านล้านดอลลาร์ที่กำลังสร้าง AI รุ่นถัดไปให้เป็นแกนหลักของธุรกิจของตน
GPU ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังออกแบบอนาคตให้กับ AI อีกด้วย
และตอนนี้ด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น NVIDIA DLSS ซึ่งใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและให้ภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น และ NVIDIA ACE ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำการโต้ตอบที่สมจริงยิ่งขึ้นมาสู่ตัวละครในเกม AI กำลังเข้ามาปรับเปลี่ยนโลกแห่งเกมอีกครั้ง
GeForce 256 วางรากฐานให้กับอนาคตที่การเล่นเกม การคำนวณ และ AI ไม่ได้แค่มีวิวัฒนาการเท่านั้น แต่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก
