By : C. Methas – Managing Editor
เรือบรรทุกเครื่องบิน “เรือธง” ของกองทัพเรืออิตาลี รุ่น MM Garibaldi ออกแบบและผลิตสร้างโดย Fincantieri of Genoa and commissioned เมื่อปี 1985 รหัส Garibaldi (C551) ระดับชั้น CVS ที่ได้รับการติดตั้งอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ
เรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นนี้รองรับเฮลิคอปเตอร์ Agusta Sikorsky SH-3D Sea King ได้ 18 ลำหรือเครื่องบินขึ้น-ลงแนวดิ่ง Harrier II จำนวน 16 ลำ โดยมีโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์จำนวน 12 ลำ มีประสิทธิภาพในการออกปฏิบัติให้การคุ้มกันและควบคุมกองเรือเพื่อการเคลื่อนย้ายหน่วยคอมมานโดและให้การสนับสนุนการขนย้ายอาวุธยุโธปกรณ์
ระบบควบคุมการปฏิบัติการโจมตีด้วยอาวุธใช้ระบบ IPN 20 ที่ผลิตโดย Selex Sistemi Integrati ให้ข้อมูลสื่อสารเชื่อมโยงเครือข่ายกับศูนย์บัญชาการ และติดตั้งจอมอนิเตอร์ทางยุทธวิธี โดยระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม Link 11 และ Link 14 ปัจจุบันเรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นนี้ยกระดับระบบสื่อสารเป็นแบบ Link 16 เพิ่มขึ้น และระบบ Wide Area Network(WAN)
อาวุธประจำการประกอบด้วย ขีปนาวุธโจมตีระยะไกลจากพื้นผิวสู่พื้นผิว MBDA Otomat ติดหัวรบขนาด 210 กิโลกรัม รัศมีการโจมตี 120 กิโลเมตร จากจุดปล่อยจำนวน 2 ชุด และขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศ MBDA Albatros ค้นหาเป้าหมายด้วยเรดาร์ Semi-Active รัศมีการโจมตี 14 กิโลเมตร จำนวน 48 ชุด ควบคุมโดยเรดาร์ Selex NA 30 นำร่องด้วยกล้องอินฟาเรดและเลเซอร์ ระบบเรดาร์เตือนภัย Elettronica Nettuno SLO-732
ปืนประจำเรือ ขนาด 40 มิลลิเมตร 2 กระบอกและ 70 มิลลิเมตร 2 กระบอกจาก Oto Melara สมรรถนะการยิง 300 นัดต่อนาที เป้าหมายทางอากาศระยะ 4 กิโลเมตร และเป้าหมายภาคพื้น 12 กิโลเมตร ทอร์ปิโดประจำเรือรุ่น ILAS จากท่อปล่อย 3 ท่อของ WASS ขนาด 324 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์แบบแก๊สเทอร์ไบ ของ Fiat Avio รุ่น LM2500 ให้กำลังขับ 81,000 แรงม้า ระวางขับน้ำ 13,370 ตัน สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุด 30 น๊อต ความเร็วปกติ 20 น๊อต รัศมีการปฏิบัติการ 7,000 ไมล์ที่ความเร็ว 20 น๊อต เจ้าหน้าที่ประจำการ 550 นาย 230 นายส่วนของการบิน
By : C. Methas - Managing Editor
เรือบรรทุกเครื่องบิน “เรือธง” ของกองทัพเรืออิตาลี รุ่น MM Garibaldi ออกแบบและผลิตสร้างโดย Fincantieri of Genoa and commissioned เมื่อปี 1985 รหัส Garibaldi (C551) ระดับชั้น CVS ที่ได้รับการติดตั้งอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ
เรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นนี้รองรับเฮลิคอปเตอร์ Agusta Sikorsky SH-3D Sea King ได้ 18 ลำหรือเครื่องบินขึ้น-ลงแนวดิ่ง Harrier II จำนวน 16 ลำ โดยมีโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์จำนวน 12 ลำ มีประสิทธิภาพในการออกปฏิบัติให้การคุ้มกันและควบคุมกองเรือเพื่อการเคลื่อนย้ายหน่วยคอมมานโดและให้การสนับสนุนการขนย้ายอาวุธยุโธปกรณ์
ระบบควบคุมการปฏิบัติการโจมตีด้วยอาวุธใช้ระบบ IPN 20 ที่ผลิตโดย Selex Sistemi Integrati ให้ข้อมูลสื่อสารเชื่อมโยงเครือข่ายกับศูนย์บัญชาการ และติดตั้งจอมอนิเตอร์ทางยุทธวิธี โดยระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม Link 11 และ Link 14 ปัจจุบันเรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นนี้ยกระดับระบบสื่อสารเป็นแบบ Link 16 เพิ่มขึ้น และระบบ Wide Area Network(WAN)
อาวุธประจำการประกอบด้วย ขีปนาวุธโจมตีระยะไกลจากพื้นผิวสู่พื้นผิว MBDA Otomat ติดหัวรบขนาด 210 กิโลกรัม รัศมีการโจมตี 120 กิโลเมตร จากจุดปล่อยจำนวน 2 ชุด และขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศ MBDA Albatros ค้นหาเป้าหมายด้วยเรดาร์ Semi-Active รัศมีการโจมตี 14 กิโลเมตร จำนวน 48 ชุด ควบคุมโดยเรดาร์ Selex NA 30 นำร่องด้วยกล้องอินฟาเรดและเลเซอร์ ระบบเรดาร์เตือนภัย Elettronica Nettuno SLO-732
ปืนประจำเรือ ขนาด 40 มิลลิเมตร 2 กระบอกและ 70 มิลลิเมตร 2 กระบอกจาก Oto Melara สมรรถนะการยิง 300 นัดต่อนาที เป้าหมายทางอากาศระยะ 4 กิโลเมตร และเป้าหมายภาคพื้น 12 กิโลเมตร ทอร์ปิโดประจำเรือรุ่น ILAS จากท่อปล่อย 3 ท่อของ WASS ขนาด 324 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์แบบแก๊สเทอร์ไบ ของ Fiat Avio รุ่น LM2500 ให้กำลังขับ 81,000 แรงม้า ระวางขับน้ำ 13,370 ตัน สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุด 30 น๊อต ความเร็วปกติ 20 น๊อต รัศมีการปฏิบัติการ 7,000 ไมล์ที่ความเร็ว 20 น๊อต เจ้าหน้าที่ประจำการ 550 นาย 230 นายส่วนของการบิน
